มาตรการการซื้อขายหลักทรัพย์
บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ยึดมั่นและปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่อง บนพื้นฐานของความมีจริยธรรมและคุณธรรมเป็นแนวทางเสมอมา คณะกรรมการบริษัทจึงได้จัดทำและนำนโย
บายการซื้อขายหลักทรัพย์ของกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน (“นโยบาย”) มาใช้เป็นแนวทางปฏิบัติร่วมกัน
“ข้อมูลภายใน” หมายถึง ข้อมูล และ / หรือข้อเท็จจริงที่มีสาระสำคัญของบริษัทซึ่งยังไม่ได้เปิด
เผยต่อสาธารณชนและอาจส่งผลให้ราคาหรือมูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัท
เปลี่ยนแปลง
“ผู้บริหาร” หมายถึง ผู้บริหารตามคำนิยามของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และ
ตลาดหลักทรัพย์ ( “ก.ล.ต.” ) รวมถึงผู้บริหารที่มีระดับเท่ากับผู้บริหาร สูงสุดสี่รายแรก และผู้บริหารในสายงานการเงินและบัญชีที่เป็นระดับผู้จัด
การฝ่ายขึ้นไปหรือเทียบเท่า
คราวของบริษัท
- คณะกรรมการบริษัททำหน้าที่กำกับดูแลนโยบายฉบับนี้ เพื่อให้มั่นใจว่ากรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน และบุคคลอื่นใดตามที่บริษัทกำหนดทุกคนได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติในการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทที่กำหนดไว้
- เลขานุการบริษัท มีหน้าที่สนับสนุนคณะกรรมการบริษัทในการสื่อสารติดตาม และกำกับดูแลการปฏิบัติตามแนวปฏิบัติของนโยบายนี้
- ผู้บริหารทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของตน มีความเข้าใจและถือปฏิบัติตามนโย
บายการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ อย่างเคร่งครัด - พนักงานมีหน้าที่รับทราบและปฏิบัติตามนโยบายนี้
- กรรมการผู้บริหารและพนักงานทุกคนต้องปฏิบัติตามข้อห้ามเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภาย
ในซึ่งได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 - กรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานคนใด ซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายในของบริษัท จะต้องไม่ เปิดเผยข้อมูลภายในแก่บุคคลอื่นไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อมและไม่ว่าด้วยวิธีใดโดยรู้หรือควรรู้ว่าผู้รับข้อมูลอาจนำข้อมูลนั้นไปใช้ประโยชน์ในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ หรือเข้าผูกพันตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เกี่ยว
ข้องกับหลักทรัพย์ไม่ว่าเพื่อตนเอง หรือบุคคลอื่น
-
บุคคลที่บริษัทกำหนด (Designated Persons)
1.2 ผู้บริหารระดับสูง
1.3 ผู้บริหารและพนักงานในหน่วยงานที่ล่วงรู้ข้อมูลภายในของบริษัท เช่น หน่วยงานนักลงทุนสัมพันธ์
หน่วยงานบัญชีและการเงิน ส่วนงานเลขานุการ หน่วยงานตรวจสอบภายใน
1.4 ผู้บริหารและพนักงานทุกคนที่เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริษัทและ / หรือคณะกรรมการชุดย่อย
1.5 บุคคลอื่นใดที่บริษัท และผู้ที่เกี่ยวข้อง มีความเห็นร่วมกันในการกำหนดเป็นบุคคลที่บริษัทกำหนด
2. ช่วงเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ (Blackout Period)
การเงินประจำรายไตรมาสและประจำปี และช่วงเวลาอื่นที่บริษัทกำหนดเป็นครั้งคราว และจะสามารถซื้อ
ขายได้ภายหลังจากที่บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลสารสนเทศแล้วอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
คลที่บริษัทกำหนดได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว
นโยบายฉบับนี้ไม่บังคับใช้ในกรณีการเข้าถือหลักทรัพย์ หรือรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (Tender Offer)
- การรายงานครั้งแรก กรรมการและผู้บริหารสี่ลำดับแรกหรือเทียบเท่า ให้จัดทำและเปิดเผยรายงานการถือครองหลักทรัพย์ของตน (ซึ่งรวมถึงคู่สมรสหรือผู้ที่อยู่กินกันฉันสามี ภริยาบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และนิติบุคคลซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ถือหุ้นรวมกันเกินร้อยละ 30) ผ่านระบบการยื่นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ภายใน 7 วันทำการ นับแต่วันที่มีการซื้อ ขาย โอน หรือรับโอนหลักทรัพย์ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 59
- การรายงานเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการ และผู้บริหารสี่ลำดับแรกหรือเทียบเท่าให้จัดทำและเปิดเผยราย
งานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของตน (ซึ่งรวมถึงคู่สมรสหรือผู้ที่อยู่กินฉันสามีภริยา บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และนิติบุคคลซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ถือหุ้นรวมกันเกินร้อยละ 30) ผ่านระบบการยื่นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันที่มีการซื้อ ขาย โอน หรือรับโอนหลักทรัพย์ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 59
กรรมการและผู้บริหารระดับสูงมีหน้าที่ต้องจัดทำ และเปิดเผยการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ดังกล่าวต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 59 และประกาศที่เกี่ยวข้อง
เลขานุการบริษัทต้องจัดทำสำเนารายงานดังกล่าว ส่งให้กับประธานคณะกรรมการบริษัท ภายใน 7 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับรายงาน และรายงานให้คณะกรรมการบริษัทรับทราบในการประชุมครั้งถัดไป
บริษัทสนับสนุนให้บุคคลที่บริษัทกำหนด ลงทุนหลักทรัพย์ของกลุ่มบริษัทในระยะยาว ทั้งนี้ ไม่ควรซื้อขายหลักทรัพย์ของกลุ่มบริษัทในระยะสั้นหรือเป็นการเก็งกำไรในหลักทรัพย์ของกลุ่มบริษัท โดยระยะสั้นในที่นี้ หมายถึง ระยะเวลา 3 เดือนหรือน้อยกว่า
ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 275 ระบุว่า “ผู้ที่มีหน้าที่จัดทำและเปิดเผยรายงานตามมาตรา 59 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 59 หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการที่กำหนด มาตรา 59 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง